การประชุม ครม. อย่างเป็นทางการนอกสถานที่ เห็นชอบ 7 โครงการเร่งด่วน กรอบวงเงิน 494 ล้านบาท

        การอนุมัติโครงการที่มีความจำเป็นเร่งด่วน 7 โครงการนั้น เพื่อพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน ทั้ง 6 จังหวัด ได้แก่ กระบี่ ตรัง พังงา ภูเก็ต ระนอง และสตูล โครงการเร่งด่วนประกอบด้วย

        1. โครงการพัฒนาระบบบริการสุขภาพและอนามัยสิ่งแวดล้อมเกาะหลีเป๊ะ จ.สตูล

        2. โครงการพัฒนาศูนย์เรียนรู้ อนุรักษ์ฟื้นฟูพะยูนและสัตว์ทะเล หายาก จ.ตรัง

        3. โครงการพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และสิ่งแวดล้อม จ.ระนอง

        4. โครงการ Phuket Health Sandbox จ.ภูเก็ต

        5. โครงการศูนย์กลางการท่องเที่ยวและนันทนาการชายฝั่งแห่งเมืองพังงา จ.พังงา (The Park Khaolak)

        6. โครงการปรับปรุงท่าเทียบเรือโดยสาร-ท่องเที่ยวปากคลอง จิหลาด จ.กระบี่

        7. โครงการพัฒนาแหล่งสปาวารีบำบัดน้ำพุร้อนคลองท่อมเมืองสปา จ.กระบี่

        พร้อมทั้งยังเห็นชอบในหลักการข้อเสนอการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม ในพื้นที่กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน จำนวน 5 ด้าน

        1. ด้านการเยียวยา ฟื้นฟู และช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ได้แก่

        • ANDAMAN ECONOMIC TOURISM (เขตเศรษฐกิจเพื่อการท่องเที่ยวอันดามัน)

        • ANDAMAN GO GREEN สร้างต้นแบบในการใช้แนวคิด การพัฒนา เศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว 3) การเสนอเป็นเจ้าภาพการแข่งขันกีฬาซีเกมส์ ครั้งที่ 33 (พ.ศ. 2568)

        2. ด้านการท่องเที่ยว

        • การยกระดับและพัฒนาศักยภาพศูนย์สั่งการและระบบการแพทย์เพื่อรองรับนักท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน

        • การยกระดับการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพและการบริการสินค้า เพื่อสุขภาพ กลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามัน

        • การพัฒนาแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์ (ปรับปรุงจวนข้าหลวงเก่า) ระยะที่ 1

        • Khaolak Surf Town พัฒนาพื้นที่เขาหลักจังหวัดพังงาให้เป็นเมืองแห่งเซิร์ฟ

        • การพัฒนาและฟื้นฟูศักยภาพแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์พื้นที่อุทยานพระนารายณ์เชื่อมโยงมรดกทางวัฒนธรรมอันดามัน

        • การพัฒนาสนามกีฬาเทศบาลนครตรังสู่มาตรฐานสากล

        • การปรับปรุงภูมิทัศน์คลองพังงา

        • การพัฒนาอุตสาหกรรมมารีน่า

        3. ด้านการเกษตร

        • การพัฒนาอุตสาหกรรมปาล์มน้ำมันกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่งอันดามันทั้งระบบแบบยั่งยืน

        • การพัฒนาการประมงในอ่าวพังงาอย่างยั่งยืน (2566-2570) (Andaman Sustainable Fisheries Development Project, 2023 – 2027)

        • การส่งเสริมการเลี้ยงแพะและแปรรูปผลิตภัณฑ์แบบครบวงจรตามมาตรฐานอาหารฮาลาล

        4. ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิต

        • การเพิ่มศักยภาพบริการทางการแพทย์และการแพทย์ฉุกเฉิน จ.พังงา

        • การพัฒนาขยายพื้นที่ให้การรักษาพยาบาลโรงพยาบาลระนอง

        5. ด้านโครงสร้างพื้นฐาน

        • โครงการยกระดับศูนย์วิจัยและบริการวิชาการภูมิภาคอันดามัน

        • การศึกษาระบบเชื่อมโยงโครงสร้างพื้นฐานทางบก ทางน้ำ ระบบราง และอากาศ (Multimodal Transportation)

        • การศึกษาโครงข่ายคมนาคมแก้ไขปัญหาจราจรในเขตเมืองและสนับสนุนยุทธศาสตร์การท่องเที่ยวกลุ่มจังหวัดภาคใต้ฝั่ง อันดามัน

         • การยกระดับโครงสร้างพื้นฐานแหล่งท่องเที่ยวที่มีศักยภาพประเภทเกาะในกลุ่มจังหวัดอันดามัน

        • การก่อสร้างระบบเคเบิ้ลใต้ดิน พื้นที่เขตอนุรักษ์ย่านการค้า เมืองเก่า จ.ภูเก็ต

        • การปรับปรุงสถานีขนส่งผู้โดยสารจ.ระนอง

        • การก่อสร้างขุดลอกและบำรุงรักษาร่องน้ำชายฝั่งทะเล

        • การยกระดับสนามบินนานาชาติกระบี่เป็น Cargo Hub

        • การก่อสร้างระบบผลิตน้ำประปา RO. เกาะพีพี อ.เมืองกระบี่ จ.กระบี่

        นอกจากนี้ยังเห็นชอบให้ประเทศไทยเสนอตัวเป็นเจ้าภาพจัดการงาน เมกะอีเวนต์ รวม 3 รายการ

        1. การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (ระดับบี) ที่ จ.อุดรธานี ในปี 2569

        2. การจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก (ระดับเอ) ที่ จ.นครราชสีมา ในปี 2572

        3. การจัดงานเอ็กซ์โปวาระพิเศษ จ.ภูเก็ต ในปี 2571

        น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า หากประเทศไทยได้รับเลือกให้เป็นเจ้าภาพเมกะอีเวนต์ทั้ง 3 งาน กระทรวงการท่องเที่ยว ประเมินว่าจะสามารถสร้างเงินสะพัดในประเทศไทยรวม 100,173 ล้านบาท ผลักดันการเติบโตให้จีดีพีได้ 68,520 ล้านบาท สร้างรายรับภาษีให้ภาครัฐ 20,641 ล้านบาท และ สร้างการจ้างงาน 230,442 คน

        สำหรับการเป็นเจ้าภาพการจัดงานเมกะอีเวนต์ดังกล่าวจะมีส่วนสำคัญ ในการพัฒนาและต่อยอดโครงสร้างพื้นฐานในด้านต่าง ๆ เพื่อรองรับ นักเดินทางจากทั่วโลก สร้างการจ้างงานผลักดันการเติบโตของจีดีพี พัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้อง ทั้งด้านนวัตกรรมการเกษตร การแพทย์ ภาคบริการและภาคท่องเที่ยว ตลอดจนการพัฒนาหลังการจัดงานให้เป็นพื้นที่เศรษฐกิจใหม่ในระยะยาว


image รูปภาพ
image

Line

คะแนนโหวต :
StarStarStarStarStar
Tag